Page 5 - ตำรา โรค หู คอ จมูก พ.ศ. ๒๔๗๒ | Textbook of Ear, Throat and Nose 1929
P. 5
คำนำ
เมื่อพุทธศักราช 2462 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 สภากาชาดสยามได้ส่ง
นายพันตรี หลวงโกศลเวชชศาสตร์ (เกี๋ยว ชนเห็นชอบ ขณะนั้นเป็นนายร้อยตรี,
สภากาชาดสยามยืมตำแหน่งมาจากกรมแพทย์ทหารบก) ไปศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทาง
ู
โรค ห คอ จมูก ที่ประเทศอังกฤษ สำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2464 และเดินทางกลับมา
ปฏิบัติหน้าท ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ ท่านเป็นแพทย์เฉพาะทาง ห คอ จมูก
ี่
ู
์
่
คนแรกของไทย หากนับเวลาตั้งแต พ.ศ. 2464 จนถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2564 กำเนิดของ
ี
แพทย์เฉพาะทาง ห คอ จมูก ไทย ได้มีอายุครบ 100 ป หรือ หนึ่งศตวรรษพอด จึงเป็น
ี
ู
ที่น่าภาคภูมิใจว่าแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก เป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีประวัต ิ
เก่าแก่ที่สุดสาขาหนึ่งของประเทศไทย
ย้อนกลับไปเมื่อพุทธศักราช 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว พระราชทานกำเนิดระบบราชการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแผน
ปัจจุบัน (Modern Medicine) ครั้งแรก โดยทรงจัดสร้างโรงพยาบาลศิริราชเป็น
โรงพยาบาลสมัยใหม (Modern Hospital) ขึ้น และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให ้
่
สร้างโรงเรียนแพทย์แผนปัจจุบัน (Modern Medical School) ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2433 ซึ่ง
แพทย์ที่จบการศึกษาล้วนเป็นแพทย์ทั่วไป และหากต้องศึกษาต่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง
ก็ต้องเดินทางไปศึกษาต่างประเทศ กระทั่ง พ.ศ. 2510 แพทยสภาจึงจัดให้มีการ
ฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางขึ้นในประเทศไทย
เนื่องจากแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก ในไทย ซึ่งได้รับการฝึกอบรมมาจาก
ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ส่วนใหญ่เดินทาง
กลับมาเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ต่างๆ จึงได้นำระบบการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะ
ทางของประเทศตะวันตกมาปรับเป็นระบบฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางในไทย จึง
ควรทราบความเป็นมาของประวัติแพทย์เฉพาะทาง ห คอ จมูก ของประเทศตะวันตก
ู
ซึ่งแบ่ง เป็น 2 ระยะ ดังน ี้